27 กุมภาพันธ์ 2550

 

ทลายแหล่งลามก เว็บแคมโป๊ส่งเน็ต

เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (9 ก.พ.) พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมกำลัง นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ ค.82/2549 ลงวันที่ 9 ก.พ. 2549 เข้าตรวจค้นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น เลขที่ 96/5 ซอยสุขุมวิท 1/1 (ซอยรื่นฤดี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าว จัดให้มีการแสดงเต้นโชว์เปลือย ให้ลูกค้ากลัดมันชมผ่านทางอินเตอร์เน็ต

ทาวน์เฮาส์หลังดังกล่าวเนื้อที่ประมาณ 30 ตารางวา เจ้าหน้าที่ไม่พบว่ามีใครอยู่ในบ้าน จึงใช้คีมตัดโซ่ ประตูอะลูมิเนียมเข้าไป โดยชั้นแรกเป็นห้องรับแขก ชั้น 2 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ใช้ม่านขึงกั้นเป็นล็อกๆ 10 ล็อก แต่ละล็อกมีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีวางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่น บนเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละตัวจะมีกล้องเว็บแคมเชื่อมต่อตัวเครื่อง นอกจากนี้ ยังมีอวัยวะเพศชายเทียม (ดิลโด้) อีกหลายอันวางอยู่ด้วย ส่วนชั้นที่ 3

เป็นห้องควบคุมการจัดระบบส่งเว็บแคมเชื่อมอินเตอร์เน็ตไปยังลูกค้า จากการตรวจสอบพบว่าชื่อ www.livejas min.com ส่วนชั้น 4 พบว่าเป็นห้องพักผ่อน ปูที่นอนอยู่กับพื้น ลักษณะคล้ายห้องรวมนอนกันหลายคน ขณะตรวจค้น มีผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ เดินเข้ามาดูเจ้าหน้าที่ระหว่างการตรวจค้น โดยบอกว่าทาวน์เฮาส์ดังกล่าวเป็นของพี่ชาย ต่อมาประมาณเดือน ก.ค. 2548 มี น.ส.พิมลพร มูลอ้าย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 4 ต.คูตัน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมแฟนหนุ่มต่างชาติ ทราบชื่อว่านายโอริ อายุประมาณ 40 ปี เป็นชาวอิสราเอล มาขอเช่าในราคาเดือนละ 35,000 บาท อ้างว่ามาทำเป็นที่พักอาศัย โดยขอติดประตูอะลูมิเนียมทึบหน้าบ้านเอง เพราะไม่อยากให้ใครมองเข้ามาในบ้าน โดยที่หน้าบ้านยังให้มีคนมาเช่าที่ขายไส้กรอกอีสานถึง 3 ร้าน เหมือนปกปิดอะไรในบ้านบางอย่าง นอกจากนี้สังเกตเห็นผู้หญิงแปลกหน้าทยอยเข้าออกตลอดเวลา ส่วนเรื่องทำผิดกฎหมายไม่ทราบเรื่องมาก่อน

ด้าน พล.ต.ต.กฤษฎากล่าวว่า ได้รับการประสานจากสถานทูตฟิลิปปินส์ว่า มีผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ 6 คนมาขอความช่วยเหลือว่า ไปขอสมัครงานแต่กลับถูกหลอกมาเต้นโชว์เปลือยและร่วมเพศกับอวัยวะเพศเทียม ให้บริการลูกค้าผ่านอินเตอร์เน็ตในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอหมายค้น แต่ปรากฏว่า นายโอริและแฟนสาว ไหวตัวหลบหนีไปได้ก่อน จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกชั้น รวมถึงประตูรั้วบ้าน เชื่อว่าก่อนหน้านี้นายโอริหลอกลวงผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ให้มาสมัครงาน ก่อนยึดหนังสือ เดินทาง บังคับให้เต้นโชว์เปลือยขายบริการลูกค้าอินเตอร์เน็ต โดยลูกค้าที่เปิดเว็บดังกล่าวเข้ามาจะเสียค่าบริการเฉลี่ยนาทีละ 1.99 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 80 บาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังตรวจดู หลักฐานจากเครื่องคอมพิวเตอร์และเอกสารต่างๆ เพื่อจะออกหมายจับในข้อหาจัดให้มีการแสดงลามกอนาจารผ่านทางสื่อ ส่วนข้อหาอื่นที่เข้าข่ายจะแจ้งเพิ่มเติมต่อไป

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า สำหรับกล้องเวบแคม เป็นอุปกรณ์เสริมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้สำหรับการสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ตแบบให้เห็นหน้าเห็นตา ต่อมาถูกนำไปใช้โชว์วับโชว์แวมสำหรับหนุ่มสาววัยรุ่นนักท่องเน็ต เป็นเหตุให้เกิดอาชญากรรมทางเพศมาหลายครั้ง แต่กรณีนี้เป็นการจงใจใช้เพื่อการค้า เจ้าหน้าที่จะได้ ติดตามจับกุมต่อไป

www.saijai.net โทร.0-2886-9991
ที่มาข่าวจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 10-2-49

 

จับ 4 วัยรุ่นเรียงคิว ม.2 ถ่ายคลิปวีดีโอลงเน็ต

จับ 4 วัยรุ่นเรียงคิวเด็กสาว ม.2 แถมใช้มือถือถ่ายคลิปวีดีโอขู่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต หากเรียกแล้วไม่ยอมมาร่วมหลับนอนอีก เหยื่อวัย 14 ปี สุดทนถูกย่ำยีหลายครั้งฟ้องพ่อก่อนเข้าแจ้งความ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.พ. นายชัยพงษ์ ( นามสมมุติ ) อายุ 35 ปี ได้พา ด.ญ.เบล (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี บุตรสาว ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.2 ในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประจิต พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าบุตรสาวถูกกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน รุมบังคับข่มขืนมาหลายครั้ง

นายชัยพงษ์ ให้การว่า ปกติลูกสาวจะเป็นคนร่าเริง แต่ระยะหลังกลับเก็บตัวเงียบไม่ยอมพูดจากับใคร จึงเค้นถามถึงสาเหตุ กระทั่งบุตรสาวยอมบอกความจริงว่า ถูกวัยรุ่นจำนวน 4 คน รุมข่มขืนแรียงคิวมาหลายครั้ง ทั้งยังถูกถ่ายเป็นวีดีโอคลิปลงไว้ในโทรศัพท์มือถือทุกครั้ง

เมื่อต้องการจะมีเพศสัมพันธ์ด้วยก็จะโทรศัพท์เรียกให้ไปพบที่หอพักแห่งหนึ่งในซอยชมจันทร์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยข่มขู่จะนำภาพในวีดีโอคลิปไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตหากไม่ยอมมาร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งในตอนแรก ๆ ด้วยความกลัวภาพตัวเองจะไปปรากฏในอินเทอร์เน็ตจึงจำใจยอมให้ทั้งสี่ข่มขืน

แต่ระยะหลังทนเจ็บปวดไม่ใหวจึงตัดสินใจเล่าความจริงให้บิดาฟัง หลังจากทราบข้อมูลชุดสืบสวน สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ จึงกระจายกำลังเข้าจับกุมชายวัยรุ่นทั้งสี่คน โดยเข้าจับกุมนายเกียรติศักดิ์ ครุฑทารีนนท์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/8 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ , นายเอกชัย มาก๋ง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 3 ต.แม่วงศ์ อ.แม่วงศ์ จ.นครสวรรค์ , ซึ่งเป็นช่างทำท่อแอร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง

โดยจับได้บริเวณสถานที่ก่อสร้างเชียงใหม่บิสสิเนสพาร์ค ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ และจับกุมนายณัฐพงษ์ จักอะโน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165/3 หมู่ 4 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายอนุพงศ์ อยขู่เย็น อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 723 หมู่ 1 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ในหอพักไม่มีชื่อ ซอยชมจันทร์ ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนนำตัวไปสอบสวน จากการสอบสวนทั้งหมดสารภาพว่าร่วมกันข่มขืน น.ส.เบล (นามสมมุติ) จริง โดยนายเกียรติศักดิ์ ให้การว่าได้รู้จักกับ น.ส.เบล มาประมาณ 1 เดือน และคบกันเป็นแฟน กระทั่งวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนต้องการจะเลิกคบกันบ น.ส.เบล

เมื่อเพื่อนทั้งสามคนทราบจึงขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ตนเห็นว่าเป็นเพื่อนกันจึงยอม โดยตนได้โทรศัพท์เรียก น.ส.เบล ให้ไปหาที่ห้องพักของตนในซอยชมจันทร์ จ.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนตั้งวงดื่มเหล้า เมื่อเมาได้ที่ตนและเพื่อนจึงใช้กำลังรุมข่มขืน และขณะที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันข่มขืนนั้น

นายณัฐพงษ์ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพไว้ เมื่อเสร็จกิจแล้วจึงให้ น.ส.เบล กลับบ้าน หลังจากนั้น เมื่อต้องการรุมข่มขืนอีกตนก็จะโทรศัพท์ไปเรียกให้ น.ส.เบล มาหาที่ห้องโดยขู่ว่าหากไม่ยอมมาหาและนำเรื่องไปบอกใคร จะนำภาพวิดีโอคลิปไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ทำให้ น.ส.เบล ยอมมาให้ข่มขืนหลายครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ส่วนนายณัฐพงษ์ เจ้าของโทรศัพท์มือถือ ให้การว่า ได้ลบภาพจากโทรศัพท์มือถือแล้วและได้นำไปจำนำไว้ในร้านแห่งหนึ่ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันข่มขืนหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี และกักขังหน่วงเหนี่ยว พร้อมทั้งติดตามโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวมาตรวจสอบ ขณะที่นายชัยพงษ์ ยืนยันจะเอาเรื่องกับทั้งสี่ให้ถึงที่สุด พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่น ๆ ที่คิดจะรุมข่มขืนหรือใช้วิดีโอคลิปแบล๊กเมล์ผู้อื่น จนอยู่ในภาวะจำยอม และฝากเตือนไปยังหญิงวัยรุ่นว่าให้ระมัดระวังในการถูกถ่ายวิดีโอคลิป เพราะมีตัวอย่างให้เห็นหลายครั้งแล้ว ส่วนผู้ที่นำภาพของผู้อื่นไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน

www.saijai.net โทร.0-2886-9991
ที่มาข่าวจาก คมชัดลึก 17-2-49

19 กุมภาพันธ์ 2550

 

ลวงสาววัย 16จากแคมฟรอกเชียงใหม่ข่มขืน

จากเว็บไซต์คมชัดลึก
วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550

มหันตภัยแคมฟร็อก ดีเจห้องดังลวงเด็กสาววัย 16 จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ อ้างพาไปถ่ายแบบแต่กลับปิดบ้านข่มขืนหลายสิบครั้ง แถมมอมเหล้าให้เต้นโชว์ผ่านกล้อง แม่เห็นภาพในอินเทอร์เนตถึงเข่าอ่อน ร้อง ผบช.ภาค 5 ตามจับเข้าคุก

(17กพ.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ประธานสมาพันธ์พิทักษ์สิทธิเด็กและสตรีแห่งประเทศไทย ได้พาน.ส.เจี๊ยบ (นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช.1 วิทยาลัยอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยมารดาเข้าร้องเรียนต่อพล.ต.ท.กิตติธัช เรือนทิพย์ ผบช.ภาค 5 ให้ดำเนินคดีกับนายพิษณุ ไม่ทราบนามสกุลที่ล่อลวงจากการเล่นโปรแกรมสนทนาชื่อดังทางอินเทอร์เนต "แคมฟร็อก" ไปข่มขืน

นางก้อย (นามสมมุติ) มารดาของ น.ส.เจี๊ยบ ให้การว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ออกไปจากบ้าน โดยบอกว่าจะไปหาพี่สาวที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากนั้นได้หายตัวไปหลายวันโดยไม่สามารถติดต่อได้จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา และได้นำรูปถ่ายของลูกสาวเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับสมาพันธ์พิทักษ์เด็กและสตรีแห่งประเทศไทย โดยให้ข้อมูลว่าลูกสาวชอบเล่นอินเทอร์เนตเป็นประจำโดยเฉพาะโปรแกรมแคมฟร็อก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์ได้พบภาพของ น.ส.เจี๊ยบ ปรากฏในห้องสนทนาชื่อ X ZEED X ในโปรแกรมแคมฟร็อก โดยมีการเต้นโชว์หน้ากล้องและอยู่ในอาการคล้ายกับมึนเมาควบคุมตัวเองไม่ได้ เจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์จึงเข้าไปคุยด้วยเพื่อสืบหารายละเอียด พร้อมทั้งบันทึกภาพเพื่อให้นางก้อยยืนยัน ปรากฏว่าเมื่อเห็นภาพนางก้อยถึงกับเข่าอ่อนและยืนยันว่าเป็นลูกสาวของตัวเอง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์จึงติดต่อทางโทรศัพท์และแจ้งให้กลับบ้านเนื่องจากมารดาเป็นห่วงและได้แจ้งความไว้

หลังกลับมาถึง จ.เชียงใหม่ น.ส.เจี๊ยบ เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะหายตัวไปได้เข้าไปเล่นแคมฟรอกจากคำแนะนำของเพื่อนและเกิดติดใจเล่นติดต่อกันมานานกว่า 3 เดือน กระทั่งเข้าไปพบกับนายพิษณุซึ่งเป็นดีเจประจำห้องสนทนาและได้พูดคุยติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ โดยนายพิษณุบอกว่ามีอาชีพเป็นนักแต่งเพลงรู้จักนักร้องหลายคน และหากไปกรุงเทพฯ จะให้เป็นดีเจประจำห้องและจะแอดสีให้เป็นสีเข้มตัวสีแดงในห้องสนทนา ซึ่งจะทำให้มีอำนาจสูงสุดในการคุมห้อง X ZEED X และ Beutiful club 1 และบอกด้วยว่าจะพาไปถ่ายแบบเป็นดารา จากนั้นนายพิษณุจึงโอนเงินเป็นค่ารถมาให้ตนจึงหลงเชื่อเดินทางไปหานายพิษณุเพราะอยากเป็นดารา

น.ส.เจี๊ยบ เล่าต่อว่า เมื่อไปถึงบ้านนายพิษณุ ได้มีคนมาถ่ายรูปตนที่บ้านโดยอ้างว่าจะนำไปให้บริษัทโมเดลลิ่งจากนั้นนายพิษณุได้ปิดบ้านข่มขืนกระทำชำเราตนหลายหลายสิบครั้ง โดยบอกว่าจะรับผิดชอบเลี้ยงดูเป็นภรรยา ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. นายพิษณุได้พานักร้องชื่อ "กัน" พร้อมกลุ่มเพื่อนมาจัดปาร์ตี้วาเลนไทน์ที่บ้าน โดยมีการเสพยาเสพติดและพูดจาหว่านล้อมให้ตนเต้นโชว์หน้ากล้องจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์มาเห็นภาพตนและติดต่อให้กลับบ้าน หลังจากกลับมาถึงบ้านมารดาของตนได้ติดต่อให้นายพิษณุให้รับผิดชอบแต่นายพิษณุกลับไม่สนใจหายตัวไป

นายเทอดศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาพันธ์ฯ ร่วมกับสหภาพวิทยุแห่งชาติประสานงานกับตำรวจของศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กองปราบปรามในการตรวจสอบการกระทำอนาจารในโปรแกรมแคมฟรอก โดยพบว่ามีเยาวชนเป็นจำนวนมากเข้าไปโชว์ลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก ทั้งที่โปรแกรมดังกล่าวมีประโยชน์แต่กลับมีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสหลอกลวงเด็กเหล่านี้ไปล่วงละเมิดทางเพศ จึงขอเรียกร้องไปยังกระทรวงไอซีทีให้เร่งหาวิธีแก้ปัญหาอย่างถาวร

ด้าน พล.ต.ท.กิตติธัช กล่าวว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดาซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี และข้อหาพาหญิงไปเพื่อทำอนาจาร โดยคดีที่เกิดขึ้นจะให้พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ เร่งออกหมายจับ พร้อมทั้งประสานไปยัง สน. ตามท้องที่ของนายพิษณุเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ประกบป้องกันการหลบหนีก่อนออกหมายจับ

ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า ทางตำรวจเองจะมีการศึกษาถึงวิธีการและพฤติกรรมของคนร้ายที่ล่องลวงเหยื่อทางอินเทอร์เนต โดยจะประสานงานกับหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ในการอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ต่อไป

13 กุมภาพันธ์ 2550

 

เด็กไทยยุคสำลักเสรีภาพ! ริเสพโป๊-มีเซ็กซ์ สุดเสี่ยงเมินถุงยาง


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2550 14:40 น.

อธ.กรมควบคุมโรค เผย ข้อมูลบีบหัวใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ ปี 2548 พบเด็ก นร.ชาย ม.2 กว่า 16,000 คน เสพสื่อลามก - ริมีเซ็กซ์ - มีเพศสัมพันธ์ กับเพศเดียวกัน แถมสุดเสี่ยงเพียง 55% เท่านั้นที่สวมถุงยางอนามัย มีกว่าครึ่งที่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ที่ดื่มแอลกอฮอล์ และเสพยาเสพติด กว่า 42% พกถุงยางติดตัว ส่วนนักเรียนหญิง 22% ผ่านการดูสื่อลามก และเพียง 29% เท่านั้นที่ให้แฟนสวมถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์

นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีของเยาวชน พบว่า ยังน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากเด็กได้รับอิทธิพลหลายด้านทั้งสิ่งเสพติด และสื่อลามกปลุกเร้าทางเพศมากขึ้น โดยล่าสุด เมื่อ พ.ศ.2548 ในกลุ่มนักเรียน ม.2 ทั่วประเทศ จำนวน 16,729 คน อายุเฉลี่ย 14 ปี พบนักเรียนชายเคยดูหนังสือโป๊ วีซีดีโป๊ ร้อยละ 48 เคยมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 3 เฉลี่ยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 13 ปี โดยร้อยละ 55 ใส่ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และช่วงปี 2547-2548 ร้อยละ 0.3 เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน ซึ่งทุกครั้งไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย และครึ่งหนึ่งใช้สารเสพติด หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมีเพศสัมพันธ์

สำหรับนักเรียนหญิง เคยดูหนังสือโป๊ วีซีดีโป๊ ร้อยละ 22 เคยมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 2 ส่วนใหญ่กับแฟน ใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 29 สำหรับกลุ่มเด็ก ม.5 เฝ้าระวัง 13,967 คน อายุเฉลี่ย 17 ปี ทั้งนักเรียนชาย หญิง เคยดูหนังสือโป๊ วีซีดีโป๊ ร้อยละ 82 ดูเว็บโป๊ ร้อยละ 57 ชายมีเพศสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 18 ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเพียงร้อยละ 39 ส่วนนักเรียนหญิงมีเพศสัมพันธ์แล้วร้อยละ 9 ส่วนระดับ ปวช.ปีที่ 2 เฝ้าระวังรวม 14,731 คน อายุเฉลี่ย 17 ปี พบนักเรียนชายมีเพศสัมพันธ์แล้วร้อยละ 38 นักเรียนหญิงมีเพศสัมพันธ์แล้วร้อยละ 30 ใช้ถุงยางอนามัยเฉลี่ยร้อยละ 42 โดยนักเรียนชายร้อยละ 42 พกถุงยางอนามัยติดตัว

 

โลกไซเบอร์ไทยน่าห่วง สถิติวัยโจ๋ดูหวิวผ่านเน็ตพุ่ง


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2550 09:13 น.
ภาพจากเว็บบีบีซี

ทรูฮิต เผยชาวไซเบอร์ ใช้คีย์เวิร์ด “เซ็ก-เซ็กส์-SEX” ผ่านกูเกิลร่วม5 แสนครั้งต่อเดือน แอบถ่าย 4 ล้านครั้งต่อเดือน แคมฟรอก สิ้นธันวาคม ค้นหาร่วม 2 แสนครั้งต่อเดือน ด้าน สสส. ห่วงสถานการณ์เยาวชน มุ่งหาสื่อลามกมากกว่าเรียนรู้ อ่านผ่านเน็ต ถึง45% วอนผู้ปกครองเร่งเรียนรู้ไอทีมากขึ้น และ ยกคอมพิวเตอร์ออกจากห้องนอนลูก มาไว้กลางบ้าน พร้อมนำโปรแกรมตรวจสอบป้องกันติดลงพีซี

ทีเค ปาร์ค ได้จัดเสวนา ‘Road Map อินเทอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ในประเทศไทย” โดยมีองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเสวนา ทั้งภาครัฐ ประชาสังคม และ ภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางรวมมือต้านภัยออนไลน์ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)

นายปิยะ ตัณฑวิเชียร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพัฒนาพัฒนาบริการ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ หรือ สบทร. ซึ่งเป็นหน่วยงานบริการตรวจสอบ และประมวลผลสถิติการเยี่ยมชมเว็บไซต์ประเทศไทยหรือบริการ "ทรูฮิต" กล่าวว่า ประเภทกลุ่มคำค้นหา เซ็ก, เซ็กส์, SEX ผ่านใช้งานเซิร์ชเอนจิ้น หรือ ตัวช่วยการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ เช่น กูเกิล ของประเทศไทย มียอดเฉลี่ย 5 แสนครั้งต่อเดือน คำว่าแอบถ่าย มีสถิติเติบโตขึ้น จากปี 49 มียอดการค้นหา ถึง 4 ล้านครั้งต่อเดือน และยังมีแนวโน้มการค้นคำกลุ่มคำเหล่านี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจุดนี้ได้ชี้ถึงถึงปัญหาของสังคมไทยในการใช้งานในแง่มุมที่ผิด หรือ ใช้เครื่องมือในทางที่ไม่เหมาะสมในการเข้าศึกษาข้อมูลเนื้อหาบนสังคมออนไลน์ อินเทอร์เน็ต

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ไอซีที กระทรวงศึกษา หารือกับผู้ให้บริการกูเกิล ส่วนประเทศไทย ในการช่วยสร้างตัวกรองคำ ค้นหา เพื่อให้เยาวชนไม่สามารถนำคำเหล่านี้มาค้นหาเพื่อนำไปสู่การเข้าเว็บลามกได้ เพราะการเข้าเว็บแบบนี้ ก็มาจากการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด ขนาดแคมฟรอก ตอนเดือนมกราคมมียอด แค่ 49 ครั้ง แต่พอสิ้นเดือนธันวาคม มีถึง 2 แสนกว่าครั้ง โดยยอดแต่เดือนโตถึง 30-40%”

น.พ.กฤษฎา เรืองอารีรัตน์ รองผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า ขณะนี้สื่อทางอินเทอร์เน็ตได้เริ่มมีบทบาทต่อเยาวชนไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นผลจากขยายตัวการใช้งาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นผลดีในด้านการชี้วัด แต่ในอีกมุมหนึ่ง ยังมีปัญหาอย่างยิ่งในสังคมไทย ที่เยาวชนมีการนำไปใช้งานในเชิงไม่สร้างสรรค์ ด้วยการเข้าใช้งานอ่านเนื้อหาด้านเพศ หรือ ดูเนื้อหาลามกอนาจาร มากกว่าการเข้าใช้งานเพื่อการเรียนรู้ โดยข้อมูลจากผลสำรวจได้พบว่า มีการดูสื่อลามกผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจำนวน 45% จากวีซีดี 22.2% และ หนังสือโป๊ 13.4%

“น่าเป็นห่วงนะในเรื่องการใช้งาน ที่ผู้ปกครองไม่ตระหนักกับเรื่องการใช้งานมากนัก ถึงแม้จะมีการส่งเสริมให้มีการใช้งาน หรือ มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้บ้าน แต่ผู้ปกครองกลับปล่อยปละละเลยในการใช้งาน คือ ให้ใช้งานแบบอิสระ ขาดการดูแลเอาใจใส่ หรือให้ความสำคัญต่อการใช้งานซึ่ง จากผลสำรวจ พบว่า มีการนำคอมพิวเตอร์ไว้ในห้องนอนหรือห้องส่วนตัวของเด็ก48.7% ผู้ปกครองมีความรู้ในเรื่องการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต 17% ไม่รู้ หรือ เข้าใจ ถึง 80%”

ทั้งนี้เรื่องการควบคุมในการใช้งาน หากผู้ปกครองให้ความสำคัญดูแลเอาใจใส่และให้การชี้แนะที่ถูกต้อง จะมีผลดีตามมาในแง่การนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ด้านเทคโนโลยี การป้องกันเหตุอาชญากรรม การถูกล่อลวงทางเพศ หรือ การเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาในทางที่ผิด

ปัจจุบันจำนวนสถิติของเด็กเยาวชน ช่วงอายุ 1-19 ปี ที่ตั้งครรภ์จากที่ได้มีการสำรวจทั่วโลก ประเทศไทยได้ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกและเป็นอันดับ 1 ในแถบเอเซีย ซึ่งในแต่ละปีมีเยาวชนหญิงเป็นจำนวนมากต้องออกจากการเรียนในช่วงเวลาศึกษา และ ส่งผลต่อจำนวนการเพิ่มยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยเป็นกลุ่มนี้เกือบ 50%

ปัญหาจากภัยอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน นั้นได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากผลสำรวจของเอแบคโพลล์ เมื่อเร็วๆนี้ พบว่า เยาวชนกว่า 60% ในพื้นที่ กทม. เคยพบเห็นภาพ และสื่อลามกบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ อีกทั้งกว่าครึ่งยังเห็นว่าเรื่องสื่อลามกบนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องธรรมดาที่รับได้

ส่วนการรับรู้แหล่งภาพโป๊/เว็บโป๊ มีการรับรู้โดยบังเอิญ 52.5 %เพื่อนแนะนำ 46.2% ค้นหาจากเว็บไซต์บริการค้นหาข้อมูล 24.9% ได้รับรู้จากทางอีเมล์ 24.6% ผ่านเว็บบอร์ด /กระทู้ 21.6% นิตยสาร/หนังสือ 10.1% และ รับรู้จากผู้ใหญ่ 2.4 % โดยเกือบ70% เคยสนทนาออนไลน์กับคนที่ไม่รู้จัก และ บางส่วนก็ลงเอยด้วยการนัดพบในสถานที่จริง ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงทำร้าย ชิงทรัพย์ ดังที่ปรากฎให้เห็นผ่านสื่อเป็นระยะ

Road Map อินเทอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ในประเทศไทย จะเป็นการกระจายบทบาทหน้าที่ในด้านความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหา การเฝ้าระวัง การป้องกัน การให้ความรู้ โดยมี 4 ส่วน คือ 1.ขจัดร้าย ด้วยการออกกฎหมาย ในระบบเฝ้าระวังและปิดกั้น 2. ขยายดี ด้วยการ ผลิตสื่อสร้างสรรค์ ให้การเรียนรู้ สร้างชุมชนการใช้งาน 3. สร้างภูมิ ด้วยการรณรงค์ในการด้านปัญหา-รู้เท่าทันภัย การใช้งาน ในกลุ่มผู้ปกครอง การสร้างหลักสูตร และ 4.สนับสนุน ด้วยการสนับสนุนงบประมาณ กองทุน และสร้างเครือข่าย โดยแผนนี้จะมีการนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการต่อเรื่องดังกล่าวโดยทราบถึงบทบาทหน้าที่ในความร่วมมือ และจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

09 กุมภาพันธ์ 2550

 

เศร้าใจเด็กไทยยุคใหม่! ไร้ข้อมูลเพศฮิตแอบถ่าย


โพสต์ทูเดย์ — ตะลึงวัยรุ่นไทยติดเว็บ งอมแงม เกม เพลง ดวง และคลิป แอบถ่าย เศร้าใจท้องก่อนแต่ง 90 ต่อ 1 พันคน

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จาก การเก็บข้อมูลทั่วประเทศของเว็บไซต์ ทรู ฮิต ตลอดปี 2549 พบว่า เรื่องที่คนไทยนิยมเข้าไปค้นหา 4 อันดับแรก ได้แก่ เกม 18%, เพลง 18% ดวง 10% และแอบถ่าย 5% เป็นเรื่องน่าห่วงมากเรื่องแอบถ่าย และ แคมฟร็อก

“ที่น่าห่วงมากคือ เว็บเพจเรื่องเพศ กว่า 400 ล้านหน้า เฉพาะในประเทศไทยมี 1.3 ล้านหน้า ส่วนใหญ่เกี่ยวกับคลิปแอบถ่าย” ทพ.กฤษฎา กล่าว ทพ.กฤษฎา กล่าวว่า การทำให้เกิดพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัยต้องไม่ ปกปิดข้อมูลเรื่องเพศ แต่ควรให้ความรู้ ข้อมูลที่ถูกต้อง ตามวัยที่เหมาะสม ขณะที่สถานการณ์เยาวชนในประเทศไทยในเรื่องเพศสัมพันธ์น่าเป็นห่วงขึ้น โดยข้อมูลเรื่องการท้องในวัยรุ่นอายุ 15-18 ปี พบว่า ในปี 2549 มีอัตราเพิ่มขึ้น คือมีวัยรุ่นท้องจำนวน 90 คน ต่อพันประชากร

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ กล่าวว่า ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องเพศคือส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น จึงต้องยอมรับความจริง แต่ไม่ใช่การสนับสนุนหรือห้ามปราม เพราะทั้งสองวิธีสุดโต่งเกินไป

น.ส.สุมณฑา ชูทอง เครือข่ายเยาวชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า พบว่าเยาวชน ยังขาดความรู้ ข้อมูล ความเชื่อที่ไม่ ถูกต้องเรื่องเพศอยู่มาก ทำให้เยาวชนต้องหาข้อมูลเองผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือ สื่อโป๊ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็ก

“ทั้งเด็กหญิงและชายไม่รู้เรื่องเพศ เช่น นับวันประจำเดือนผิด รู้จักใช้ยาคุมฉุกเฉิน แต่ทานยาไม่ครบ หรือไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัยเพราะกลัวไม่ถึงจุดสุดยอดเป็นค่านิยมผิดๆ” น.ส.สุมณฑา กล่าว

www.saijai.net โทร.0-2886-9991
ที่มาข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
รูปจาก เว็บไซต์ คู่มือ เตรียมความพร้อมน้องหนู ... เรียนรู้เรื่องเพศ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

 

เด็กยอมเสียตัว14กุมภาฯ


โพสต์ทูเดย์ — เด็กไทยยอมเสียตัววัน วาเลนไทน์ถึง 36.8%

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักวิจัย เอแบคโพลล์ สำรวจความคิดเห็นเยาวชนในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อายุ 10-24 ปี จำนวน 1,578 คน เรื่อง “ทัศนคติเรื่องเพศและพฤติกรรมในวัน วาเลนไทน์” โดยสอบถามว่าหากคนรัก ขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยในวันวาเลนไทน์ จะปฏิบัติตัวอย่างไร วัยรุ่น 1 ใน 3 หรือ 36.8% ตอบว่าไม่ยอมแน่ถึงจะต้องเลิกคบก็ตาม 29.2% ตอบว่ายังไม่รู้ แล้วแต่จะเป็นไป 10.4% ตอบว่า ถ้าจำเป็นก็ยอม ขอดู เหตุการณ์ก่อน 16.4% ตอบว่า ยอมอยู่แล้ว และมีอีก 7.2% ที่ตอบว่าจะปรึกษาคนอื่นก่อน และจะว่าตักเตือนกลับไป

เอแบคโพลล์ ระบุว่า เมื่อสอบถามว่าเหตุผลที่ทำให้คนมีเพศสัมพันธ์กับคนรักคืออะไร สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างตอบมากที่สุด 5 อันดับ คือ 1.ความรัก 52% 2.อารมณ์ พาไป 43.5% 3.อยากรู้ อยากลอง 31.7% 4.ความพอใจ 31.7% 5.การแต่งงาน 12.7% โดยกลุ่มตัวอย่างเกือบ 1 ใน 3 หรือ 30% คิดว่า คนที่มีเพศสัมพันธ์ได้ควรอายุ 18 ปีขึ้นไป 23.2% คิดว่าอายุ 20 ปีขึ้นไป 19.4% บอกว่า 25 ปีขึ้นไป

ผลการสำรวจในเรื่องคำแนะนำที่จะ ให้เพื่อน หากรู้ว่าเพื่อนกำลังตัดสินใจจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟน พบว่า 43.7% จะบอกให้รักนวลสงวนตัวเป็นแค่แฟน ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ 35.4% จะบอกว่ามีได้ แต่ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง 11.7% ให้ปฏิเสธ และขอเป็นแค่เพื่อน 7.3% บอกว่าการ มีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องตื่นเต้นเลย ส่วนแนวทางการป้องกันวัยรุ่น ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร วัยรุ่น 43.6% ตอบว่า ควรดูแลและป้องกัน สื่อลามก ไม่ให้เข้าถึงตัววัยรุ่น จะได้ ไม่มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ 39.2% ตอบว่าควรปลูกฝังค่านิยมรักนวลสงวนตัว

www.saijai.net โทร.0-2886-9991
ที่มาข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต