20 ตุลาคม 2549

 

รวบหนุ่มขายสบู่ แชตลวงสาวปวช.ขยี้กาม-ชิงทรัพย์

จับหนุ่มใหญ่ขายสบู่สมุนไพรลวงสาวปวช.นักแชตข่มขืน-ชิงทรัพย์ เผยขับวอลโว่ไปรับเหยื่อออกมากินข้าว ระหว่างทางออกลายทันที แวะรับเพื่อนร่วมแก๊งขึ้นรถตบหน้า-คว้าคัตเตอร์ขู่ชิงทรัพย์กวาดเกลี้ยงทั้งมือถือ-เครื่องประดับ แถมพาออกต่างจังหวัดเข้าหลังปั๊มข่มขืนซ้ำอีก ไม่หนำใจเลยบังคับกดเอทีเอ็มไปอีก 2 หมื่น อ้างเพิ่งทำมาแค่ 2 ครั้ง

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ กก.สส.บก.น.4 พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.ทวีป โพธิ์แก้ว รอง ผกก.สส.บก.น.4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายตะวัน หรือโทน จันทร์ทนุ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/331 หมู่ที่ 2 ต.บางเสาธง กิ่ง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาคดีล่อลวงหญิงทางอินเตอร์เน็ตไปข่มขืนชิงทรัพย์ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4169/2549 ลงวันที่ 19 ต.ค.49 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน สฉ-5207 กทม.มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม

โดย พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นายตะวันได้ใช้โปรแกรมเพิร์ททางอินเตอร์เน็ต ติดต่อกับ น.ส.สุ (นามสมมติ) นักศึกษาระดับ ปวช.ของวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง จนกระทั่งวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. นายตะวัน ได้โทรศัพท์นัด น.ส.สุ ไปรับประทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จากนั้นก็ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน สฉ-5207 กทม.ไปรับ น.ส.สุ ที่เกียรติธาดาเฮ้าส์ ซอยลาดพร้าว 71 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า เมื่อนายตะวันไปรับผู้เสียหายขึ้นรถแล้ว ระหว่างทางนายตะวัน ได้ขับรถไปรับนายศักดิ์ชัย หรือ เอก พงศาปาน เพื่อนร่วมแก๊งอีกคนหนึ่ง ที่บริเวณ 4 แยกโรงไม้ จากนั้นก็ได้ให้นายศักดิ์ชัย ไปขับรถแทน ส่วนนายตะวันนั้นได้บังคับให้ผู้เสียหายไปนั่งที่เบาะหลัง จากนั้นก็ตบหน้าผู้เสียหายไป 3 ครั้ง ก่อนที่จะชักมีดคัตเตอร์จี้ผู้เสียหายเพื่อขู่บังคับเอาทรัพย์สินภายในตัวไป

เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วผู้ต้องหายังขู่บังคับให้ น.ส.สุ บอกรหัสบัตรเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์อีกด้วย เมื่อผู้เสียหายยอมบอก ผู้ต้องหาได้ขับรถไปกดเงินที่ธนาคารทหารไทย สาขาสุขาภิบาล 2 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ทันทีได้เงินสดจำนวน 2,400 บาท โดยหลังจากกดเงินเสร็จแล้ว ทั้งผู้ต้องหาทั้งสองคนยังขับรถพาผู้เสียหายไปตามถนนสุวินทวงศ์ และแวะเข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันบางจาก

หลังจากเติมน้ำมันเสร็จ ผู้ต้องหาได้ขับรถเข้าไปจอดบริเวณด้านหลังปั๊ม จากนั้นนายศักดิ์ชัย ได้ข่มขืนผู้เสียหายทันที โดยหลังจากข่มขืนแล้ว ผู้ต้องหายังบังคับให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหลอกญาติให้โอนเงินมาให้อีกด้วย โดยผู้ต้องหาได้ขับรถไปรอกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ภายในปั๊มน้ำมันเจ็ท สาขาฉะเชิงเทรา จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท และครั้งที่ 2 จำนวน 8,000 บาท

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า เมื่อกดเงินเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้นำทรัพย์สินของผู้เสียหายมาแบ่งกันในรถ โดยนายตะวัน นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย ของผู้เสียหายไปขายที่ร้านโทรศัพท์ ซอยแบริ่ง ถนนศรีนครินทร์ ได้เงินมาจำนวน 8,000 บาท ส่วนนายศักดิ์ชัย ได้เงินสดไปจำนวนหนึ่ง พร้อมสร้อยคอทองคำ 1 เส้น แหวนทองคำ 1 วง แหวนเพชร 1 วง แหวนทองคำขาว 1 วง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน และโทรศัพท์ยี่ห้อโมโตโรล่าอีก 1 เครื่อง ได้ขับรถพาผู้เสียหายไปทิ้งไว้ภายในซอยวัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ ก่อนจะขับรถหลบหนีไป

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.โชคชัย หลังกรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายตะวันเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา จึงทำการขออนุมัติออกหมายจับและเชิญตัวมาสอบปากคำ ที่ กก.สส.บก.น.4 ทันที

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เพิ่งก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแค่ 2 ครั้ง เท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา4 ข้อหาคือ ร่วมกันกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกันกระทำผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ,ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพร่างกาย และร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาเพิ่งก่อเหตุมาแค่ 2 ครั้ง เนื่องจากจากการสืบสวนพบว่า นายตะวัน มีอาชีพขายสบู่สมุนไพร และชอบอ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้ชื่อ "จ่าโทน" เพื่อนำโทรศัพท์มือถือของเหยื่อไปขายให้หลายครั้ง จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนน่าจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง หากผู้เสียหายรายใดถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว ขอให้ติดต่อขอดูตัวได้ที่ สน.โชคชัย สำหรับนายศักดิ์ชัย ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ผู้เสียหายสามารถจดจำรูปพรรณได้เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปสเก็ตช์ภาพคนร้ายแล้ว พร้อมทั้งได้เร่งให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวมามาดำเนินคดีต่อไป