20 เมษายน 2550

 

สั่งเชือด บ.ถุงยางเล่นแผลง ชวนผู้ชายติดสติกเกอร์ที่หน้าอก-ใกล้อวัยวะเพศสาวพริตตี้


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 เมษายน 2550 16:30 น.





“ไพบูลย์” ผงะแทงกิ้วปาร์ตี้ บ.ถุงยางเล่นแผลงๆ ชวนผู้ชายติดสติกเกอร์ที่หน้าอก ใกล้อวัยวะเพศสาวพริตตี้ เตรียมฟันแจ้งดำเนินคดีลามกอนาจาร พร้อมแฉการ์ตูนโป๊หนีขึ้นเน็ต เด็กไทยหมกหมุ่น ตั้งก๊วนแปล โหลดแลกกันดูโจ๋งครึ่มวันละเป็นหมื่น ส่วนนิตยสาร 7 ใน 10 ขายภาพหวิวเปิดบน-เปิดล่าง ชง ครม.เพิ่มโทษ-ขึ้นภาษีสื่อไม่เหมาะสม ตั้งอนุกรรมการ 5 ชุดลุยเช็กบิล แฉอีกชาวบ้านแจ้งโทร.แจ้งเว็บไม่เหมาะสมกว่า 5,000 เว็บ ชงไอซีทีสั่งปิดด่วน

วันนี้ (19 เมษายน) นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการสื่อปลอดภัยฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งมีผู้แทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายไพบูลย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ภายหลังจากมีการตรวจพบการ์ตูนลามกลักลอบขายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบติดตามเพิ่มเติมพบว่า ขณะนี้การ์ตูนลามกได้หนีจากแผงหนังสือขึ้นไปอยู่บนอินเทอร์เน็ต มีเว็บไซด์การ์ตูนโป๊ออนไลน์ให้เด็กๆ มาแลกเปลี่ยนภาพโป๊การร่วมเพศอย่างไม่ปิดบังมากกว่า 250 เว็บ มีทั้งภาพขาวดำ ภาพสี ภาพเคลื่อนไหว โดยเด็กๆ จะนำมาจากการ์ตูนต่างประเทศมาแปลเอง จัดหน้าเอง มีเด็กเข้าไปดูวันละเป็นหมื่นคน เพราะดูได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาไปหาซื้อการ์ตูนโป๊ตามแผงหนังสือ

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า เด็กกลุ่มหนึ่งจึงมีโลกที่หมกหมุ่นกับการ์ตูนโป๊จนกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างความเข้าใจผิดเรื่องเพศ เพราะการ์ตูนจะเข้าถึงและกระตุ้นเด็กๆ ได้ง่าย และเป็นอันตรายต่อเด็ก ขณะที่ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา สื่อสิ่งพิมพ์อย่างนิตยสารแฟชั่น บันเทิง มักเสนอภาพยั่วยุกามรมณ์ หน้าปกหนังสือ 7 ใน 10 เล่ม ต้องมีภาพชาย หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย หรือแทบไม่มีอะไรปิดบังร่างกาย เด็กเยาวชนพบสื่อเหล่านี้ได้ในบ้านของตัวเอง เพราะพ่อแม่และญาติซื้อเอาไว้ อาจโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็ทำให้ถึงมือเด็กได้ง่าย

ส่วนสื่อกิจกรรม (event media) เพื่อขายสินค้าก็ใช้ความอนาจาร โป๊ เปลือย มาเป็นจุดล่อให้คนสนใจ อย่างบริษัทถุงยางอนามัยแห่งหนึ่ง จัดงานให้ผู้ร่วมงานติดสติ้กเกอร์บนร่างกายของพริตตี้สาวในงาน โดยแย่งกันติดบริเวณหน้าอก และใกล้อวัยวะเพศ

“ผมว่าเราต้องมาตั้งคำถามกันแล้วว่า จะปล่อยให้สังคมเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ให้ผู้ใหญ่ใช้ความลามก อนาจาร มาเป็นเครื่องทำกำไร มอมเมาเด็กต่อไป หรือจะร่วมกันแก้ไข สังคมต้องมีกลไกดูแลสื่อไม่เหมาะสม เบื้องต้นจะส่งรายชื่อให้ปิดเว็บเหล่านี้ และส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการทางกฎหมาย แต่สิ่งที่ผมคาดหวังคือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายใหญ่จะควบคุมกันเอง ไม่ให้ผู้ที่กระทำผิดเช่าสัญญาณอินเทอร์เน็ต ส่วนกิจกรรมประชาสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สคบ. ต้องมาดูแล ซึ่งน่ายินดีว่าภาคประชาชนก็ร่วมเป็นหูเป็นตา ร้องเรียนเรื่องสื่อไม่เหมาะสมมาที่ศูนย์ปฏิบัติการสื่อสร้างสรรค์ วันละไม่ต่ำกว่า 35 เรื่อง แต่ละเรื่องก็ประสานจัดการไปยังผู้เกี่ยวข้อง การที่ทำอย่างนี้ ไม่ใช่จะทำตัวเป็นคุณครู ที่คอยจับผิด แต่ผมเชื่อว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่คิดเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำกันทุกวันนี้ เกินขอบเขตที่จะรับได้”นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของบริการ 1900 คณะกรรมการของทีโอที กำลังพิจารณาปิด เบอร์ของผู้ให้บริการ 2 เจ้า ทั้งนี้คณะกรรมการสื่อปลอดภัยฯ สรุปร่วมกันว่าควรมีมาตรการเพิ่มโทษ และมีมาตรการทางภาษีสื่อเสี่ยง โดยผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสื่อลามกมีบทลงโทษเพียงปรับ 6,000 บาท และจำคุก 3 ปี แต่มักมีผลตัดสินรอลงอาญา ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับผลประโยชน์มหาศาลในการทำสื่อลามก และผลเสียต่อสังคมวัฒนธรรม จึงต้องมีการเพิ่มโทษให้รุนแรง และควรออกมาตรการทางภาษีกับสื่อทั้งระบบที่เข้าข่ายเสี่ยงกับเยาวชน เพื่อลดแรงจูงใจในการทำสื่อเสี่ยงต่างๆ และนำเงินภาษีที่เก็บได้มาดำเนินการขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี สร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชน โดยจะเสนอ ครม. เพื่อดำเนินการต่อไป

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการสื่อปลอดภัยฯ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 5 ชุด ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการขจัดสื่อร้าย มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติงานสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมเป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการขยายสื่อดี มีดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ เป็นประธาน 3.คณะอนุกรรมการสร้างภูมิคุ้มกัน มี ดร.จรวยพร ธรณินทร์ เป็นประธาน 4.คณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมาย มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานและ5.คณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นางสุวรรณี คำมั่นเป็นประธาน โดยอนุกรรมการแต่ละชุด สามารถดำเนินในส่วนที่ได้รับมอบหมายและดำเนินการได้ทันที

ด้าน นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า มีเว็บไซต์ที่มีผู้โทรศัพท์แจ้งร้องเรียนขณะนี้รวมแล้วกว่า 5,000 เว็บไซต์ มีการประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อกว่า 2,000 เว็บไซต์ ที่หน้าตกใจคือในจำนวนเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเข้ามาพบมีเว็บอาบอบนวดที่เดี๋ยวนี้มีการสั่งมาให้บริการจากทางอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งการสกัดกั้นเว็บไซต์เหล่านี้ได้มีการหารือกับทางกูเกิล ร่วมกันหามาตรการป้องกันเยาวชน เช่น เมื่อค้นหาคำว่า เซ็กซ์ เว็บไซต์ที่แสดงเป็นอันดับต้นๆ จะต้องเป็นเว็บที่ให้ความรู้กับเยาวชน

“นอกจากเว็บไซต์ ละครทีวีหลังข่าว ที่มีการจัดเรตติ้งแต่จำนวนรายการชิกรักหักสวาทก็ยังไม่ลดลง ภาพยนตร์ที่ฉายในโรงก็คงมีแต่การใช้ถ้อยคำหยาบคาย พฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น มีการใช้เท้าลูบหน้า เป็นต้น รวมถึงแมกกาซีนทั้งหัวในหัวนอกยังเลี่ยงกฎหมายปิดนม ปิดอวัยวะเพศก็ยังอยู่บนแผงหนังสือได้ ส่วนของงานแทงกิ้วปาร์ตี้ของบริษัทต่างๆ ที่ส่อไปทางลามกอนาจารแม้เป็นการกระทำในที่ลับแต่มีการเผยแพร่ภาพได้มีการส่งเรื่องให้ทางตำรวจดำเนินการในข้อหาอนาจารทั้งเจ้าของบริษัทและบริษัทที่รับจัดงานแล้ว ซึ่งการปิด หรือกวาดจับอย่างเดียวคงไม่พอแต่พลังประชาสังคม จะต้องร่วมด้วยจึงจะสำเร็จ” นางสาวลัดดากล่าว

ด้านคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมจะสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ เพราะเรื่องนี้คือภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัวเด็กและเยาวชน โดยคณะกรรมการสื่อปลอดภัยฯ ได้มีมติให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ขึ้นที่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนนโยบายและมาตรการ พัฒนาความร่วมมือในการขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี สร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชน การขจัดสื่อร้ายนั้น ได้เปิดให้ประชาชนร้องเรียน แจ้งเบาะแส หากพบสื่อที่ไม่เหมาะสม ได้ที่หมายเลข 1111 โดยศูนย์จะทำหน้าที่ติดตามส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) หากไม่มีการจัดการ จะส่งเรื่องไปถึงเจ้ากระทรวงหรือหัวหน้าหน่วยงานทันที เพื่อให้มีการดำเนินการกับผู้ประกอบการที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม

บทความที่น่าใส่ใจ : แสดงความคิดเห็น

<< vvv