15 ตุลาคม 2550
ใส่ใจดอทเน็ต ได้รางวัลจาก Thailand ICT Awards (TICTA) 2007
ซึ่ง โครงการ Thailand ICT Awards (TICTA) เป็นโครงการประกวดผลงาน ด้านซอฟต์แวร์แห่งชาติ ที่กำเนิดขึ้นด้วยความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) และสมาคมอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศไทย (The Association of Thai ICT Industry - ATCI) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมด้านไอซีทีของประเทศ
ป้ายกำกับ: รางวัล, SaiJai.net, TICTA
จับ “ไอ้หื่น” แชตลวง ด.ญ.ขืนใจถ่ายคลิปขู่เรียกเงินหมื่น
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์
15 ตุลาคม 2550 14:05 น.
ตำรวจศูนย์สืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมหนุ่มหื่น ลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี ทาง MSN เข้าม่านรูดข่มขืนกระทำชำเรา แล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้ จากนั้นนำไปข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ผู้ปกครองเด็กทราบเรื่อง สะกิดตำรวจรวบตัวไว้ได้
วันนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผกก.ศสส.บช.น.นำกำลังเข้าจับกุมนายต่อ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.นก (นามสมมติ) อายุ 13 ปี แล้วถ่ายคลิปวิดีโอแบล็กเมล์ ขู่ให้มาพบและขู่กรรโชกทรัพย์
พ.ต.อ.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง ด.ญ.นก ว่า บุตรสาวถูกคนร้ายที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต โดยลงข้อความ “คุยหาแฟน” ทางเว็บไซต์ www.dek-d.com ใช้อีเมล ebola@hotmail.com ไว้สำหรับติดต่อทาง MSN ต่อมา ด.ญ.นก หลงเชื่อ ติดต่อเข้าไปพูดคุยจนไว้ใจยอมให้เบอร์โทรศัพท์ กระทั่งมีการนัดพบกันเมื่อต้นเดือนตุลาคม แล้วคนร้ายพา ด.ญ.นก ไปข่มขืนกระทำชำเราที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง จากนั้นพยายามติดต่อกับเด็กหญิงผู้เสียหายหลายครั้ง รวมทั้งมีการข่มขู่ว่าถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ขณะกระทำชำเรา โดยให้ ด.ญ.นก ออกมาพบ และให้นำเงิน 10,000 บาทมาให้ด้วย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.พ.ต.ต.คัมภีร์ พรหมสนธิ สว.นำกำลังเข้าจับกุมคนร้าย ได้ขณะเดินทางมารับเงินจาก ด.ญ.นก ผู้เสียหาย
12 ตุลาคม 2550
ตะลึง! พฤติกรรมโจ๋ไทย ท่องเนตหาคู่-สวิงกิ้ง
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบเยาวชน มีพฤติกรรมเสี่ยง ผ่านการออนไลน์ รุนแรงขึ้น เห็นได้จาก การที่วัยรุ่นไทย สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ลามก ได้เร็วขึ้นจากเดิม 25-30 วินาที เป็น 15-20 วินาที อีกทั้ง ยังใช้เว็บบอร์ดสวิงกิ้ง ในอินเตอร์เน็ต เพื่อหาคู่ หรือสลับ คู่นอน เพื่อนับแต้มสะสม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม รวมถึงใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อกลั่นแกล้งเพื่อนด้วยการโพสรูป และหมายเลขติดต่อของเพื่อน ไว้ในเว็บต่างๆ โดยที่เพื่อนไม่รู้ หรือการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า อินเตอร์เน็ตเป็น เหมือนดาบสองคม ถ้าใช้เป็นจะมี ประโยชน์มหาศาล ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาเด็กไทย ใช้อินเตอร์เน็ต ไปในทางไม่เหมาะสม ศูนย์อินเตอร์เน็ตสร้างสรรค์ และปลอดภัยร่วมกับ สสส. และเครือข่ายสื่อใหม่สร้างสรรค์ จัดประกวดสื่อ เพื่อการเรียนรู้ ในลักษณะ เว็บเพื่อการเรียนรู้ และคลิปวิดีโอ สารคดีแนวใหม่ เพื่อให้นักเรียน ครูและผู้สนใจร่วม สร้างสรรค์สื่อดี โดยให้โรงเรียนทั่วประเทศ เข้าถึงสื่อเพื่อการเรียนรู้ เหล่านี้ได้ผ่านเว็บ www.sema.go.th ซึ่งเปิดรับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
ตำหนิ "เว็บ" ทำให้วัยรุ่นท้อง!!!
เมื่อวันที่ 16/8/2550 0:05:05
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของจีนรายงานว่า เด็กสาวในนครเซี่ยงไฮ้ เกือบครึ่งที่ "ตั้งครรภ์" และโทรศัพท์ ไปยังศูนย์ฮอตไลน์ สายด่วน เพื่อขอ ความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำ จากคุณหมอ บอกว่า พวกเธอมีเพศสัมพันธ์ กับหนุ่มๆ ที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต และส่วนใหญ่ต่าง ขาดความรู้เรื่อง สุขอนามัยทางเพศ
ทั้งนี้ แพทย์หญิง จาง เจิ้นกง แห่งโรงพยาบาล No.411 ในนครเซี่ยงไฮ้ บอกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีเด็กสาวคิดเป็นสัดส่วน 46% จากกว่า 20,000 คนที่โทรศัพท์ มาที่ศูนย์ฮอตไลน์ของ โรงพยาบาล บอกว่า พวกเธอตั้งท้องกับ เด็กหนุ่มที่พบกัน ทางเน็ตแล้ว ว่าที่คุณพ่อส่วนใหญ่ ต่างหายหน้าไปทันที เมื่อรู้ว่าฝ่ายหญิงตั้งท้อง ขณะที่เด็กสาวเหล่านั้น ก็ไม่รู้แม้แต่ "ชื่อจริง" ของชายที่ทำให้เธอท้อง!!!
คุณหมอเล่าด้วยว่า เด็กสาวส่วนใหญ่ ที่โทร.มาขอความช่วยเหลือ แทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับ การคุมกำเนิด ทั้งยังคิดว่าการทำแท้ง ไม่มีอันตราย และมีอยู่หลายราย ที่ผ่านการทำแท้งมา แล้วหลายครั้ง "หรือบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองท้อง กระทั่ง ตั้งท้อง ผ่านไปหลายเดือน" คุณหมอบอก
ในรายงานยังว่า ช่วงปิดเทอมจะมีเด็กสาว ตั้งครรภ์ โทร.มาที่ ศูนย์ฮอตไลน์ เพิ่มขึ้น 12% ส่วนเด็กสาว ที่โทรมาปรึกษา ต้องการทำแท้ง ก็มีจำนวน เพิ่มขึ้น 30% ในช่วงปิดเทอม โดยเด็กสาวอายุ 16-18 ปี มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
คุณหมอ ยังว่า เด็กสาวทั้ง ระดับมัธยม และมหาวิทยาลัย ต่างบอกเหมือนกันว่า พวกเธอใช้อินเตอร์เน็ต เป็นแหล่งใหญ่ ในการหาข้อมูล เกี่ยวกับ เรื่องเพศศึกษา ขณะที่มี พ่อแม่ ผู้ปกครองเพียง 7.9% ที่พูดคุยให้ความรู้เรื่อง เพศศึกษา แก่ลูกสาว แต่มีพ่อแม่ถึง 46% ที่บอกว่า เป็นหน้าที่ของโรงเรียน ที่ต้องให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา แก่เด็กนักเรียน
