24 พฤษภาคม 2550

 

ตร.ลุยค้นรัง “ไอ้โหด” เชื่อคลั่งเกมต่อสู้เกินขอบเขต

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2550 20:10 น.


ตำรวจบุกค้นรัง “ไอ้โหด” ที่ก่อคดีใช้อาวุธปืนอาก้า ติดเลเซอร์ยิงตำรวจเสียชีวิต และประชาชนบาดเจ็บ จนถูกวิสามัญฯ โดยพบกระสุนปืน หนังสือเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน และเกมคอมพิวเตอร์ชนิดยิงต่อสู้ ตำรวจเชื่อ เล่นเกมมากเกินขอบเขต

วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.พิเทียรยศ อรุณพันสกุล รอง ผกก.สส.บช.ภ.1 นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในอาคารรัชดาแมนชั่น เลขที่ 80 ซอยลาดพร้าว 44 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก ห้วยขวาง กทม.หลังจากสืบทราบว่า เป็นที่พักของ นายเกียรติพงษ์ เมฆสวรรค์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเสียชีวิต และประชาชนที่ตลาดไท ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนจะถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

แมนชั่นดังกล่าวแบ่งเป็น 2 อาคาร โดยภายในห้องเลขที่ 101 ชั้น 3 ของอาคาร 1 เป็นห้องของ นายเกียรติพงษ์ โดยจากการตรวจสอบภายในห้องค้นพบกระสุนปืนอาก้า จำนวน 11 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 35 นัด แมกกาซีน 2 อัน มีด 3 เล่ม ดาบซามูไร 1 เล่ม ท่อพีวีซีต่อสายไฟ 1 อัน หน้ากากผี หนังสือเกี่ยวกับปืน เกมคอมพิวเตอร์ยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนำไปตรวจสอบ

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานมายัง ตำรวจ สน.สุทธิสาร เนื่องจากพบพวงกุญแจห้องดังกล่าวของคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยได้มีการติดต่อเจ้าของอาคารเพื่อขอขึ้นไปตรวจสอบห้องพัก และจากการตรวจสอบ ก็พบกระสุนปืนอาก้า ที่เป็นขนาดเดียวกับที่คนร้ายใช้ยิงก่อเหตุเมื่อช่วงเช้า ทั้งนี้ จากการสอบสวนเจ้าของอาคารให้การว่า นายเกียรติพงษ์มาเช่าได้ประมาณ 1 เดือนเศษ โดยมีพี่สาวจ่ายค่าห้องให้ และแวะเวียนมาหาอยู่เป็นประจำ

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า นายเกียรติพงษ์ ไม่มีเพื่อน ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้ทำงาน ชอบอยู่คนเดียว ชอบนั่งสมาธิ ชอบไปวัด ชอบอ่านหนังสืออาวุธปืน และเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่รุนแรง ล่าสุด มีพยานเห็นว่า นายเกียรติพงษ์ ออกจากห้องเวลาประมาณ 21.00 น.ของเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) โดยสะพายกระเป๋าและขับ จยย.ออกไป จนมาก่อเหตุดังกล่าว

“มารดาของ นายเกียรติพงษ์ มีสามีเป็นชาวต่างชาติ จะคอยส่งเงินให้ลูกใช้ คงไม่ทราบพฤติกรรมของลูก จึงขอเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ของผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลบุตรหลาน ว่า อย่าปล่อยให้เล่นเกมที่รุนแรง และมีผลกระทบต่อจิตใจ เพราะเชื่อว่า นายเกียรติพงษ์ น่าจะเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่มีความรุนแรง จนจำมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ จะส่งของกลางทั้งหมดและนำตัวพี่สาวของนายเกียรติพงษ์ ให้กับพนักงานสอบสวน ภูธรภาค 1 ดำเนินคดีต่อไป” ผบก.น.2 กล่าว

23 พฤษภาคม 2550

 

อนิจจา!ชีวิตทันสมัยไฮเทคสองคม กิมจิลุยสกัดเว็บยั่วยุคนฆ่าตัวตาย


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2550 10:10 น.



ยูนิ หนึ่งในคนบันเทิงอีกคนของเกาหลีใต้ ที่ตัดสินใจตัดช่องน้อยแต่พอตัวเมื่อเร็วๆ นี้


เฮรัลด์ ทรีบูน – ภายในออฟฟิศธรรมดาๆ บนชั้น 6 ของอาคารแห่งหนึ่ง คิมฮีจูกับเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์อีก 5 คน ท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อต่อสู้กับเทรนด์อันตรายของเกาหลีใต้ในวันนี้ คือการที่คนกลุ่มหนึ่งใช้เว็บไซต์เป็นจุดแลกเปลี่ยนข้อแนะนำหรือทำข้อตกลงฆ่าตัวตายหมู่

ต้นเดือนที่แล้ว มีผู้พบศพหญิงสาว 2 คนในอพาร์ตเมนต์แบบห้องเดียวทางใต้ของโซล ทั้งคู่ปิดประตูหน้าต่างทุกบาน และใช้เทปติดช่องทางต่างๆ ไม่ให้อากาศถ่ายเทเข้าออก ก่อนติดเตาเผาถ่านและสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์พิษจนเสียชีวิต หญิงสาวทั้ง 2 คนพบกันในเน็ต

กลางเดือนมีนาคม หนุ่มสาว 5 คนที่พยายามฆ่าตัวตายหมู่มาแล้ว 2 ครั้ง ขับรถไปโรงแรมชายหาดเพื่อปรึกษาหาวิธีปลิดชีพใหม่ๆ โชคดีที่มีคนหนึ่งเปลี่ยนใจและเรียกตำรวจไปช่วย คนกลุ่มนี้เจอกันในเน็ตเช่นเดียวกัน

ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้แปรสภาพจากหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายต่ำที่สุดในโลกเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสถิติดังกล่าวสูงที่สุด ปี 2005 แดนกิมจิมีสถิติการฆ่าตัวตาย 24.7 คนต่อประชากร 100,000 คน (สูสีกับญี่ปุ่น) โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 6,440 คนในปี 2000 เป็น 12,047 คนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า สาเหตุมาจากความเครียดของชีวิตสมัยใหม่ รวมถึงบทบาทของอินเทอร์เน็ต โดยเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงบรอดแบนด์สูงสุดในโลก และอินเทอร์เน็ตกลายเป็นจุดนัดพบที่นำคนที่คิดฆ่าตัวตายมาพบกัน

ในช่วงเวลากว่าหนึ่งชั่วอายุคนเล็กน้อย เกาหลีใต้ผ่องถ่ายตัวเองจากสังคมเกษตรกรรมสู่สังคมไฮเทคที่มีการแข่งขันสูง ความกดดันให้ไขว่คว้าหาความสำเร็จเริ่มต้นกันตั้งแต่ระดับโรงเรียนไปจนถึงชีวิตการทำงาน

ขณะเดียวกัน สถาบันครอบครัวกลับอ่อนแอลง อัตราการหย่าร้างพุ่งทำสถิติสูงสุด การรับประกันการจ้างงานตลอดชีพหายไปพร้อมกับการมาถึงของวิกฤตการเงินเอเชียในทศวรรษที่แล้ว

2 ปีก่อน เด็กมัธยมชุมนุมประท้วงกลางกรุงโซล โดยร้องตะโกนว่า “เราไม่ใช่เครื่องจักรการเรียน!” เด็กเหล่านี้มารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยให้กับนักเรียน 15 คนที่ฆ่าตัวตายเพราะความกดดันเรื่องการเรียน

แม้ไม่มีสถิติอย่างเป็นทางการของการฆ่าตัวตายที่มีอินเทอร์เน็ตเป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นตัวช่วย แต่จากการวิเคราะห์กลุ่มฆ่าตัวตาย 191 กลุ่มที่สื่อมวลชนรายงานระหว่างเดือนมิถุนายน 1998 ถึงเดือนพฤษภาคม 2006 พบว่าตัวเลขเพิ่มขึ้น 3เท่าจากปี 2003

นับจากปี 2005 เว็บท่าแดนอารีดังถูกกดดันจนต้องห้ามไม่ให้ผู้ใช้ใช้คำบางคำ อาทิ ‘การฆ่าตัวตาย’ และ ‘ความตาย’ ในการตั้งชื่อบล็อก และหากผู้ใช้คีย์หาคำว่า ‘การฆ่าตัวตาย’ เสิร์ชเอนจินจะลิงก์ไปที่ศูนย์ให้คำปรึกษาทันที

“ฉันอยากฆ่าตัวตาย” วัยรุ่นคนหนึ่งโพสต์ไว้ในเว็บยาฮู! เวอร์ชันเกาหลี พร้อมบ่นว่าถูกเพื่อนที่โรงเรียนรังแก แถมพ่อแม่ยังจ้ำจี้จ้ำไชให้ปรับปรุงการเรียน “ฉันมีเงินแค่ 30,000 วอน มีใครพอจะขายยาพิษให้ได้ไหม? ฉันไม่อยากตายแบบเจ็บปวดทรมานอย่างเช่นกระโดดตึก”

ข้อความแนวๆ นี้หาได้ไม่ยากตามบุลเลอทินบอร์ดของเว็บท่าใหญ่ๆ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หนุ่มวัย 28 ปี ที่เปิดบล็อกเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายในชื่อ ‘การเดินทางสู่สวรรค์’ ถูกจับกุมหลังขายโปแทสเซียมไซยาไนด์ให้เด็กชายอายุ 15 ปีที่เจอกันในเน็ต และเด็กคนนั้นใช้สารพิษดังกล่าวฆ่าตัวตาย

ขณะเดียวกัน ทางการโซลลุกขึ้นมาออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ เนื่องจากเกือบ 40% ของคนเกาหลีที่ฆ่าตัวตาย ใช้วิธีดื่มยาฆ่าแมลงหรือกระโดดจากที่สูง รัฐบาลจึงกำลังพิจารณาเพื่อกำหนดให้ยาฆ่าแมลงเป็นพิษน้อยลง รวมทั้งติดตั้งเครื่องกีดขวางบนดาดฟ้าหรือสะพาน

โซล เมโทรเริ่มสร้างผนังกระจกบนชานชาลาสถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากมีคน 95 คนกระโดดตัดหน้ารถไฟใต้ดินในปี 2003 รัฐบาลยังมีแผนติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในรถไฟ เพื่อให้คนขับตรวจสอบสภาพชานชาลาก่อนนำรถเข้าสู่สถานี

ปี 2005 คณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาล สั่งปิดบล็อกหรือเว็บท่า 566 แห่งที่ชักชวนผู้ใช้ฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้นจาก 93 แห่งในปีก่อนหน้า จำนวนเว็บท่าหรือบล็อกที่ถูกสั่งปิดลดลงเหลือ 147 แห่งในปี 2006 ก่อนดีดกลับอีกครั้งเป็น 161 แห่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

แต่ละเดือน ทีมป้องกันการฆ่าตัวตายของคิมฮีจูค้นพบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายเฉลี่ย 100 แห่ง และขอให้เว็บท่าลบบล็อกเหล่านั้นทิ้ง บล็อกเหล่านี้บางแห่งมีข้อความรุนแรงพอจะแจ้งตำรวจจับ ข้อหาละเมิดกฎหมายห้ามการช่วยเหลือเพื่อให้มีการฆ่าตัวตายหรือแลกเปลี่ยนสารอันตราย

“แต่ก่อนผู้ใช้จะใช้บล็อกชื่อออกแนวอย่าง ‘มาตายด้วยกันเถอะ’ แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นระวังมากขึ้น หลังจากเจอกันแล้ว พวกเขาจะปิดไซต์และเปลี่ยนมาใช้อีเมลหรือติดต่อกันทางมือถือแทน เราต้องเสิร์ชกันมากขึ้น รวมทั้งอาศัยสัญชาติญาณและโชคช่วยในการตามหาคนเหล่านี้”

เมื่อเร็วๆ นี้ทีมของคิมเพิ่งพบบล็อกชื่อ 'ชีวิตแสนลำบาก' โดยเจ้าของบล็อกโฆษณาว่า เป็นจุดนัดพบสำหรับผู้ที่พยายามฆ่าตัวตาย ไซต์นี้ดึงดูดคนมากมายที่มาทิ้งเบอร์มือถือและที่อยู่อีเมลไว้ติดต่อกับคนที่ ‘อยากเดินทางด้วยกัน’

ตอนนี้ตำรวจกำลังตามล่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังบล็อกดังกล่าว เพื่อนำตัวมาสอบสวนและอาจถูกดำเนินคดีข้อหาช่วยให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

"มนุษย์เป็นสัตว์สังคม คนบางคนเลยอยากมีเพื่อนตายพร้อมๆ กัน” เจสัน ลี ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตมหานครในโซล บอก

ศูนย์แห่งนี้มีผู้ขอคำปรึกษาทางโทรศัพท์หรือทางเน็ตเฉลี่ยเดือนละ 600 ราย ในจำนวนนี้มี 15% ที่เสี่ยงสูงที่จะฆ่าตัวตาย ที่น่าสังเกตคือ จำนวนผู้ขอคำปรึกษาพุ่งพรวดภายหลังการฆ่าตัวตายของศิลปินหญิง 3 คนเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงจองดาบิน นักแสดงวัย 27 ปี ที่ผูกคอตายเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ก่อนการเสียชีวิตวันเดียว จองทิ้งข้อความไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า น่าจะสื่อถึงการฆ่าตัวตาย โดยดาราสาวตั้งคำถามทิ้งไว้ว่า พระเจ้ากำลังรอคอยเธออยู่หรือไม่

18 พฤษภาคม 2550

 

สลดใจ - เด็กติดเกม ม.3 ผูกคอตายเลียนแบบ GTA มรณะ


เด็ก ม.3 วัย 15 ปี ลูกชายสายสืบบางเขน ผูกคอตายอนาถในแฟลตตำรวจ
ศพพิลึกไม่สวมเสื้อแต่นุ่งกระโปรงสั้นสีดำ ใส่ถุงน่องแบบเต็มตัว
แถมยังใช้เชือกผูกรองเท้ามัดขาทั้งสองข้างอีก
พ่อออกเวรกลับไปหาลูกพบกลายเป็นศพ หัวใจแทบสลาย
ไม่รู้ปมสาเหตุลูกคิดสั้นฆ่าตัวตาย เผยเป็นเด็กร่าเริง
แต่ติดเกมออนไลน์-ออฟไลน์จนงอมแงม ยันไม่มีการเบี่ยงเบนทางเพศ
เพื่อนรักแฉคนตายติดเกมจีทีเอ แนวอาชญากรรม
สร้างตัวเองเป็นนักเลงหัวไม้ไล่ก่อเหตุชั่วร้ายเพียบ
เผยเจอครั้งสุดท้ายเหมือนมาลาโทรศัพท์หาเพื่อนในกลุ่มทุกคน
ตำรวจคาดคนตายซึมซับพฤติกรรมตัวละครในเกม
จนเอามาเป็นแบบอย่างแต่พลาดต้องมาจบชีวิตแบบอนาถ แฉเกม GTA เป็นแนวระห่ำแตก
เน้นความสะใจในการก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ นิยมมากในหมู่วัยรุ่นคนเล่นเกม
อีกรายสาวใต้รักร้าว ซดเบียร์เคลียร์ปัญหาแต่ไม่ลงตัว
วิ่งเข้าตู้โทรศัพท์สาธารณะใช้สายฮัลโหลรัดคอตัวเองตายอนาถ

เด็กลอกเลียนพฤติกรรมจากเกมจนต้องจบชีวิตลงรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น.
วันที่ 6 ส.ค. ร.ต.ต.กวินท์ อดุลยาศักดิ์ ร้อยเวร สน.บางเขน
รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตภายในห้อง 41/2 ชั้น 1 แฟลต 1 ข้าราชการตำรวจหลัง
สน.บางเขน ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.วรฤทธิ์
ศูนยะคณิต สว.สส. และมูลนิธิร่วมกตัญญู พบศพนายพิเชษฐ์ เข็มเงิน อายุ 15 ปี
หรือน้องแบงก์ นักเรียนชั้น ม.3 ร.ร.ลาดปลาเค้าวิทยาคม
สภาพศพใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองโยงกับช่องระบายลมหน้าห้องน้ำ
โดยมือทั้งสองข้างอยู่ในสภาพจับรั้งผ้าขาวม้าอยู่ ส่วนศพไม่สวมเสื้อ
นุ่งกระโปรงสั้นแค่เข่าสีดำ สวมถุงน่องแบบเต็มตัว
และที่ข้อเท้ามีเชือกผูกรองเท้าสีดำมัดขาทั้งสองข้างไว้
ทั้งนี้ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายหรือรื้อค้นภาย ในห้องแต่อย่างใด

จากการสอบสวน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ เข็มเงิน ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.บางเขน
บิดาน้องแบงก์ ให้การด้วยน้ำเสียงโศกเศร้าว่า
ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งออกเวรชุดสืบสวนมาเมื่อช่วงเวลา 06.00 น.
โดยกลับมาที่ห้องพัก เพื่อปลุก
ลูกชายให้ตื่นมากินข้าวและเตรียมตัวไปเรียนพิเศษตามปกติ
แต่เคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีคนมาเปิดประตู
จึงคิดว่าจะต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่นอน
ทำให้ตัดสินใจถอดบานเกล็ดหน้าต่างห้องออก
แล้วเปิดประตูเข้าไปพบเห็นลูกชายผูกคอตายดังกล่าว

"เรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายผมยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด
เนื่องจากในช่วงเย็นวันที่ 5 ส.ค. หลังเลิกเรียนลูกชายได้มาวิ่งเล่นกับเพื่อน
ๆ ที่หน้าแฟลต ปกติลูกชายเป็น เด็กร่าเริง สนุกสนาน
จึงคิดไม่ออกว่าสาเหตุที่ทำให้ลูกชายฆ่าตัวตาย
ตอนนี้ยังรู้สึกข้องใจว่าลูกชายผูกคอตายได้อย่างไร
โดยเฉพาะสภาพศพที่สวมกระโปรง ถุงน่องและเชือกมัดที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง
เพราะลูกชายไม่มีพฤติกรรมแต่งตัวแบบนี้มาก่อน
แต่ที่ผ่านมาลูกชายมักชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ มักจะออกไปเล่นตามร้านเกมบ่อย ๆ
ซึ่งผมก็ได้ห้ามปรามอยู่เป็นประจำ ตอนนี้รู้สึกหัวใจแทบสลาย
ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ" จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวทั้งน้ำตา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับ บัญชาและเพื่อนตำรวจ
ได้นำอาวุธปืนของ จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ที่มีอยู่ 2 กระบอก มาเก็บรักษาไว้
เนื่องจากเกรงว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ จะคิดสั้นฆ่าตัวตายตามลูกชายไปด้วย
ทั้งนี้มีเพื่อนของน้องแบงก์ คนหนึ่งเล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันน้องแบงก์
ได้มาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่าที่โรงเรียนมีเพื่อนผูกคอตาย ไป 1 คน
โดยไม่ทราบสาเหตุและศพยังไม่ได้เผา

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุการตายของน้องแบงก์
อาจจะไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตาย
แต่อาจจะต้องการลอกเลียนแบบการกระทำจากเกมคอมพิวเตอร์
ที่น้องแบงก์เล่นจนติดงอมแงม ซึ่งมีทั้งเกมออนไลน์และออฟไลน์
โดยเกมมีลักษณะส่อไปถึงความรุนแรง
สำหรับเกมที่กำลังได้รับความนิยมมีเนื้อหาเกี่ยวกับตำรวจไล่ล่าคนร้ายเพื่อจับกุมตัวมาสอบปากคำ
จากนั้นจะใช้วิธีการรุนแรงในการสอบปากคำด้วยการนำมาช็อตไฟฟ้า เชือกรัดคอ
และจับกดน้ำ ทำให้น่าเชื่อว่าน้องแบงก์
นำพฤติกรรมที่พบในเกมมาทดลองทำจนเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะเรียกคนใกล้ชิด ทั้งพ่อ
เพื่อนสนิทคนตายทั้งในโรงเรียนและที่แฟลตตำรวจ
มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
เพื่อหาสาเหตุที่น้องแบงก์เสียชีวิตว่ามาจากความตั้งใจหรืออุบัติเหตุ
ทั้งนี้ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.
คนข้างห้องที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากห้องดังกล่าว
แต่ไม่มีใครสนใจเนื่องจากคิดว่าคนทะเลาะกัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้น้องแบงก์
เคยนำปืนของพ่อมาเล่นจนลั่นถูกขาตัวเองเจ็บมาแล้ว 1 ครั้ง
และล่าสุดทำไฟไหม้ห้องพักจนวอดไปอีก
สำหรับศพญาตินำไปตั้งสวดพระอภิธรรมไว้ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน รวม 5 วัน
โดยจะทำการฌาปนกิจในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เวลา 16.00 น.

ด้าน ด.ช.วิฑูร สมัตถะ อายุ 14 ปี เพื่อนน้องแบงก์ เล่าว่า
เพื่อนติดเล่นเกมชื่อ GTA เป็นเกมเกี่ยวกับการขโมยรถ
โดยให้ผู้เล่นเป็นคนขโมยแล้วจะมีตำรวจเป็นผู้ติดตามจับกุม
ซึ่งหากสามารถรอดพ้นการจับกุมก็จะได้คะแนนและระดับที่สูงขึ้นจนกลายเป็นมืออาชีพ
ทั้งนี้ก่อนจะทราบข่าวเพื่อนตาย รู้สึกผิดสังเกตในช่วงเย็นของวันที่ 5
ส.ค.ที่ผ่านมา โดยปกติหาก เลิกเรียนแล้วช่วงเวลา 15.30 น.
คนตายจะกลับบ้านทันที แต่ในวันที่ 5 ส.ค. น้องแบงก์ได้อยู่กับเพื่อน ๆ
ในกลุ่มนานจนถึง 16.30 น. และช่วงเวลา 17.00-21.00 น. ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อน
ๆ ในกลุ่มเกือบทุกคน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เพื่อนไม่เคยทำมาก่อน
แต่ในช่วงนั้นก็ไม่ได้ สนใจอะไร จนมาทราบข่าวว่าเพื่อนเสียชีวิต
จึงคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 5 ส.ค.
เป็นเหมือนการสั่งลาจากเพื่อนก็เป็นได้

ด.ช.วิฑูร เล่าอีกว่า ช่วงอยู่ที่โรงเรียนน้องแบงก์
ไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนจะเป็นเพศ ที่สามแต่อย่างใด
เพราะก่อนหน้านี้น้องแบงก์ได้ บอกกับเพื่อน ๆ ว่าแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง
เป็นรุ่นพี่ชั้น ม.4 ซึ่งทุกครั้งที่ผู้หญิงคน ดังกล่าวเดินผ่าน
น้องแบงก์จะรู้สึกเขินจนหน้าแดง
อย่างไรก็ตามรู้สึกตกใจที่เพื่อนมาเสียชีวิตแบบกะทันหัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจัด เรตของเกมต่างประเทศนั้น ทาง ESRB จะ
เป็นหน่วยงานที่เข้ามาดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งได้แบ่ง ระดับของเนื้อหาเกมไว้ 6
ประเภท ดังนี้ 1. "EC" หรือ Early Childhood
คือเนื้อหาปลอดภัยเหมาะกับผู้เล่นอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป 2. "E"หรือ
Everyone เนื้อหาเกมมีความรุนแรงบ้างเล็กน้อย ภาษาไม่รุนแรง
เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป 3. "E10+" เหมาะ
กับผู้เล่นที่มีอายุตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไป 4. "T" หรือ Teen
เนื้อหาเกมมีความรุนแรง ภาษาหนักเบาสลับกัน บางฉากมีภาพรุนแรง
เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป 5. "M" หรือ Mature
เนื้อหาของเกมมีเรื่องเพศอยู่บ้างมีความรุนแรงของฉากอยู่มาก ภาษาค่อนข้างแรง
เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป และ 6. "AO"หรือ Adults Only
เนื้อหาเกมมีเรื่องเพศค่อนข้างมาก ฉากและภาพรุนแรงมาก
ไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้ปกครองควรพิจารณา

ล่าสุดสำหรับข่าวคราวการจัดอันดับเกม เมื่อ San Andreas ภาคล่าสุดของ GTA
ผลงานการพัฒนาของบริษัทร็อกสตาร์ ได้ถูกคณะ
กรรมการจัดเรตสื่อซอฟต์แวร์บันเทิง (Entertain ment Software Ratings
Board-ESRB) กำหนดให้เป็นเกมสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป หรือเรต AO
เนื่องจากคณะกรรมการได้ เข้ามาตรวจสอบเนื้อหาของเกมในภายหลังพบว่า
มีเนื้อหาที่รุนแรงอย่างมาก
ประกอบกับเกมถูกเพิ่มเนื้อหาในเรื่องเพศสัมพันธ์ของตัวละคร
จากการดัดแปลงของกลุ่มแฮกเกอร์ในต่างประเทศ ซึ่งจากเดิมแล้ว GTA
เคยเป็นเกมในเรต M (Mature) คือเกมสำหรับผู้มีอายุ 17 ปีขึ้นไป

โดยเกม Grand Theft Auto
เป็นเกมออฟไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เล่นเกมมากที่สุดในขณะนี้
ด้วยระบบการเล่นที่เป็นไปอย่างอิสระเสรีในโลกของเกม ผู้เล่นสวม
บทบาทเป็นนักเลงที่สามารถจะทำอะไรก็ได้อย่างไม่ผิดศีลธรรม
ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่จะพัวพันอยู่ในวงการอาชญากรรมต่าง ๆ เช่น
การทำร้ายร่างกาย การโจรกรรม ไปจนถึงการฆาตกรรม ที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในเกม
เพื่อให้บรรลุภารกิจที่เกมกำหนด ทำให้ GTA กลายเป็นเกมที่สนองความ
ป่าเถื่อนที่มักถูกจำกัดไว้ในโลกความเป็นจริง

วันเดียวกัน ร.ต.ต.ธีรยุทธ มิตรมูสิก ร้อยเวร สภ.อ.เบตง จ.ยะลา
รับแจ้งพบศพคนผูกคอตายภายในตู้โทรศัพท์สาธารณะ หน้าที่ทำการไปรษณีย์อำเภอเบตง
ถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลเมืองเบตง ไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวนหนึ่ง
พบศพน.ส.ดาฮานี สาและ อายุ 25 ปี สภาพลิ้นจุกปาก
ที่คอมีสายโทรศัพท์พันติดแน่น นั่งห้อยตัวอยู่
ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ตามตัวมีกลิ่นเบียร์คลุ้งไปทั่ว

จากการสอบสวนทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุคนตายได้มานั่งคุยตกลงเรื่องความรักกับแฟนหนุ่ม
เนื่องจากฝ่ายชายมีท่าทีที่เหินห่าง
แต่ไม่สามารถตกลงกันได้แฟนหนุ่มจึงเดินจากไป ปล่อย ให้คนตายนั่งอยู่ลำพัง
ซึ่งระหว่างนั้นได้ดื่มเบียร์ไปด้วย
ต่อมาฝ่ายหญิงได้โทรศัพท์ไปหาฝ่ายชายอีกแต่พูดคุยไม่รู้เรื่อง
เนื่องจากคนตายมีอาการเมา ทำให้อีกฝ่ายวางสายไป
คนตายจึงเกิดอาการน้อยใจตัดสินใจผูกคอตายประชดรักดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป.

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
วันที่ : 2005-08-07 09:48:06

11 พฤษภาคม 2550

 

‘เว็บพร็อกซี่’ แหกกรอบไอซีทีบล็อกเว็บ

ข่าวจากเว็บ posttoday วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2550


แม้กระทรวงไอซีที จะประกาศตัวเลขเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกว่ามีจำนวนทั้งสิ้นถึง 13,435 เว็บ แต่สำหรับนักท่องเน็ต การบล็อกไม่ใช่ปัญหาในการเชื่อมต่อเข้าไปสู่เว็บเหล่านั้น แม้แต่น้อย เพราะแค่เปิดเว็บที่ทำหน้าที่เป็น “เว็บพร็อกซี่” (Web Proxy)

เว็บพร็อกซี่ทำหน้าที่เสมือนคนกลางในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและเว็บที่ถูกบล็อก เนื่องจากการบล็อกเว็บของไอซีทีจะทำการบล็อกที่เกตเวย์ หรือจุดเชื่อมต่อของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศกับเว็บที่ไม่เหมาะสมที่อยู่นอกประเทศ ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไทยไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังเว็บที่ถูกบล็อกได้


นักท่องเน็ตจะเปิดหน้าเว็บพร็อกซี่ขึ้นมา และกรอกชื่อเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกลงไป จากนั้นเว็บพร็อกซี่จะเรียกเว็บที่ถูกบล็อกขึ้นมาแสดงให้ได้ใช้งานตามปกติ


ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะเว็บพร็อกซี่เป็นเว็บที่ตั้งอยู่ใน ต่างประเทศทำให้ไม่ถูกบล็อกการเชื่อมต่อไปยังเว็บไม่เหมาะสมโดยไอซีที เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อไปยังเว็บพร็อกซี่ก่อน และใช้ให้เว็บพร็อกซี่เป็นผู้เชื่อมไปยังเว็บที่ถูกบล็อกจึงสามารถเปิดดูเว็บเหล่านั้นได้ตามปกติ


ในปัจจุบันมีเว็บพร็อกซี่ให้บริการอยู่เป็นจำนวนมากกว่าร้อยเว็บ ที่สำคัญคือ ตั้งแต่ไอซีทีดำเนินการบล็อกเว็บไซต์ ก็มีนักสร้างเว็บหัวใสสร้างเว็บพร็อกซี่ที่ใช้ชื่อว่า อันบล็อกไอซีที (UnBlockICT) ขึ้นมาให้ผู้ใช้เชื่อมต่อเว็บที่ถูกบล็อกได้อย่างอิสระ


ขณะที่ผู้สร้างจะมีรายได้จากการเปิดให้บริการเว็บ พร็อกซี่ 2-3 รูปแบบคือ 1.การเก็บค่าโฆษณาที่มีการนำมาแสดงไว้บนหน้าเว็บไซต์ 2.การเรียกเก็บรายได้บริการเชื่อมต่อจากเว็บที่ถูกบล็อก 3.การใช้ระบบสมาชิกโดยเก็บค่าสมาชิกจากผู้ใช้เพื่อแลกกับสิทธิในการเข้าใช้งาน

เว็บพร็อกซี่จึงเป็นหนึ่งในหลายเรื่องที่กำลังท้าทาย ความสามารถของภาครัฐ ในการควบคุมการกระทำผิดผ่านคอมพิวเตอร์


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต